เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568 จังหวัดราชบุรี
ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เดินหน้าโครงการขยายการใช้งานน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าปลอดภัยจากปาล์มน้ำมันไทย “EnPAT” โดยติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าบรรจุ EnPAT ในพื้นที่ ต.ดอนตะโก อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี
ภายใต้การดูแลของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองราชบุรี และได้รับเกียรติจาก คุณสุรวุฒิ น้อยนิมิตร ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดราชบุรี และคุณสัมฤทธิ์ แสงทอง ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองราชบุรี เป็นผู้ควบคุมการดำเนินงานติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าบรรจุ EnPAT ในครั้งนี้
การนำร่องติดตั้งและใช้งานหม้อแปลงไฟฟ้าบรรจุ EnPAT ที่จังหวัดราชบุรีในครั้งนี้ ถือเป็นตัวแทนของการใช้งาน EnPAT ในภาคตะวันตกของไทย ซึ่งภายหลังการติดตั้ง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคร่วมกับทีมวิจัยจาก ENTEC ยังได้ดำเนินการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้าบรรจุ EnPAT ผ่านระบบติดตามผลแบบออนไลน์ เพื่อประเมินสมรรถนะของหม้อแปลงไฟฟ้าบรรจุ EnPAT อย่างต่อเนื่อง
นายสุรวุฒิ น้อยนิมิตร ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดราชบุรี และนายสัมฤทธิ์ แสงทอง ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองราชบุรี ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในโอกาสติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าที่บรรจุน้ำมัน EnPAT ในจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568
การติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าที่บรรจุน้ำมัน EnPAT ในจังหวัดราชบุรีครั้งนี้ ถือเป็นการใช้งานน้ำมันหม้อแปลง EnPAT ครั้งแรกในภูมิภาคตะวันตก พวกเราที่ กฟภ. เมืองราชบุรีรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการนี้ และเป็นส่วนหนึ่งในการนำเทคโนโลยี EnPAT มาสู่พื้นที่ให้บริการของเรา
น้ำมัน EnPAT ผลิตจากน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของประเทศไทย เป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม และหนึ่งในคุณสมบัติเด่นคือความทนไฟสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยในกรณีที่เกิดการระเบิดของหม้อแปลง ทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับชุมชน
การนำหม้อแปลงที่ใช้น้ำมัน EnPAT มาใช้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ กฟภ. ในการยกระดับความยั่งยืนและคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมทั้งตอกย้ำพันธกิจของเราด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
โครงการนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายของ กฟภ. ในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) อีกด้วย เรารู้สึกยินดีที่ความพยายามครั้งนี้ได้ดำเนินการร่วมกับทีมวิจัยของ ENTEC ซึ่งกำลังติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลการทำงานของหม้อแปลง EnPAT เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

