
สรุปประเด็นจาก NSTDA x Press Interviews - ENTEC: พลังวิจัยและนวัตกรรม เพื่ออนาคตพลังงานไทยที่ยั่งยืน
อนาคตพลังงานของไทยจะเป็นอย่างไรในวันที่โลกหมุนเร็วและเต็มไปด้วยความท้าทาย ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (เอ็นเทค) สวทช. ชวนสื่อมวลชนล้อมวงพูดคุย อัปเดตผลงานและความคืบหน้าสำคัญในงาน "NSTDA x Press Interviews" NSTDA x Press Interviews event.
โดย ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการเอ็นเทค สวทช. นำทีมเผยทิศทางของศูนย์ฯ ที่กำลังจะครบรอบ 5 ปี พร้อมตอบคำถามว่างานวิจัยและนวัตกรรมของไทยพร้อมแค่ไหนสำหรับอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน
ENTEC กับบทบาทจริงในการขับเคลื่อนแผนพลังงานชาติ
เอ็นเทคมีเป้าหมายชัดเจน คือ การเป็น "ฟันเฟือง" สำคัญที่เชื่อมโยงงานวิจัยเข้ากับแผนพลังงานของประเทศ สร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ ผลักดันนวัตกรรมสู่การใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ เพื่อให้ไทยพึ่งพาตนเองด้านพลังงานได้อย่างยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย วิสัยทัศน์ คือ การเป็นองค์กรชั้นนำและศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานของประเทศ


4 กลุ่มเทคโนโลยีขุมพลังพลังงาน: ENTEC กำลังมุ่งเน้นงานวิจัยด้านใดบ้าง?
ดร.สุมิตรา ได้ฉายภาพรวมผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่กำลังเป็น "ความหวังใหม่" ของวงการพลังงานไทย โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลักที่น่าจับตามอง
1. เทคโนโลยีเชื้อเพลิงสะอาดและการบูรณาการระบบไฮโดรเจนพลังงานแห่งอนาคตที่ต้องเริ่มวันนี้
ซึ่งเอ็นเทคมีประสบการณ์ด้านนี้ยาวนานกว่า 20 ปี ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตจากไบโอแก๊ส เอทานอล และกำลังมุ่งสู่ "ไฮโดรเจนสีเขียว" ตอบโจทย์ทั้งยานยนต์ FCEV และโรงไฟฟ้า
- H-FAME
ไบโอดีเซลมาตรฐานใหม่: อัปเกรดคุณภาพไบโอดีเซลไทยให้ผสมได้มากขึ้นหรือใช้เพียวๆ ก็ได้ ผ่านการทดสอบวิ่งจริงเป็นแสนกิโลเมตร พร้อมรองรับมาตรฐานยูโร 5 และมีแผนสำหรับยูโร 6 - SAF (Sustainable Aviation Fuel)
เชื้อเพลิงเครื่องบินรักษ์โลก เอ็นเทคมีส่วนร่วมสนับสนุนให้เกิดการใช้ SAF ในอุตสาหกรรมการบินของไทย - SMRs (Small Modular Reactors)
นิวเคลียร์ไซส์เล็ก ความหวังใหม่พลังงานสะอาด เอ็นเทคศึกษาและทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับ SMR หรือเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก ที่มีระบบความปลอดภัยสูง ซึ่งอาจเป็นทางออกสำคัญสู่ Net Zero โดยต้องวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 10 ปี
2. นวัตกรรมโอเลโอเคมีและเคมีภัณฑ์สีเขียว
เอ็นเทคพลิกชีวิต "ปาล์มไทย" สู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง สร้างมูลค่าเพิ่มจากน้ำมันปาล์มให้เป็นมากกว่าแค่น้ำมันบริโภคหรือเชื้อเพลิง
- EnPAT (Bio-transformer oil)
น้ำมันหม้อแปลงชีวภาพ: จุดเด่น คือ ติดไฟยาก ปลอดภัยกว่าเดิม เมื่อหมดอายุสามารถไปผลิตไบโอดีเซลต่อได้ โดยเริ่มมีการติดตั้งใช้งานจริงแล้ว - A range of bio-based products
กองทัพผลิตภัณฑ์ Bio-based ทั้งน้ำมันหล่อลื่นชีวภาพที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหาร, จาระบีชีวภาพที่ตอบโจทย์ระบบราง และยาฆ่าแมลงชีวภาพ (Eco-Pest) ปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค Eco-Pest, a bio-insecticide that is safe for farmers and consumers.
3. นวัตกรรมแบตเตอรี่ครบวงจร รับยุค EV และพลังงานหมุนเวียน
เอ็นเทควิจัยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่วัสดุ การออกแบบ การผลิต การใช้งาน จนถึงการจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้ว
- SWAP2GETHER
A standardized battery-swapping system for electric motorcycles, enhancing EV convenience, lowering costs, and promoting domestic manufacturing through a dedicated consortium.
4. เทคโนโลยีโซลาร์เซลล์
ต่อยอดพลังงานแสงอาทิตย์ให้ฉลาดขึ้น พัฒนาตั้งแต่ระดับวัสดุ การออกแบบโมดูลที่หลากหลาย ไปจนถึงการจัดการแผงหมดอายุ
- SEESOLAR
โซลาร์เซลล์เพื่อเกษตรกร แผงโซลาร์ที่ไม่ได้ให้แค่ไฟฟ้า แต่ยัง "กรองแสง" ให้เหมาะกับพืช พร้อมลดความร้อนในโรงเรือน - Solar Sure
แพลตฟอร์มจัดการแผงโซลาร์เก่า ช่วยคัดเกรดแผงมือสอง สร้างตลาดใหม่ และดูแลการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี ที่กำลังพิจารณาและกำกับมาตรฐาน โดย สมอ.
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้: เกือบ 5 ปี กับผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่า 2.4 หมื่นล้าน
การทำงานของเอ็นเทคไม่ได้อยู่แค่ในห้องแล็บ แต่สร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคมที่วัดผลได้ โดยในช่วงปีงบประมาณ 2564 - 2567 สามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 24,692 ล้านบาท ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรกว่า 190 ราย ทั้งในและต่างประเทศ มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติกว่า 100 ฉบับ และพัฒนาบุคลากรด้านพลังงานอีกนับพันคน
ก้าวต่อไปของ ENTEC: "ความยั่งยืน" และ "Net Zero" คือ หมุดหมาย
เอ็นเทคยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมพลังงาน โดยให้ความสำคัญกับการจัดการแบตเตอรี่และโซลาร์เซลล์อย่างครบวงจร ผลักดันผลิตภัณฑ์โอเลโอเคมีสู่การใช้งานจริงในวงกว้าง เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย