เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 ณ โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ

ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดการสัมมนาปฐมนิเทศ “โครงการการศึกษาเพื่อจัดทำข้อมูลฐาน (Baseline data) และการประเมิน (Tracking) การลดก๊าซเรือนกระจกจากมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของยานพาหนะ”

โดยมี ดร.นุวงศ์ ชลคุป ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยพลังงานคาร์บอนต่ำ และ ดร.พีรวัฒน์ สายสิริรัตน์ นักวิจัย ทีมวิจัยพลังงานทดแทนและประสิทธิภาพพลังงาน นำเสนอแผนงานการศึกษาขั้นต้น พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตลอดจนแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ สำหรับนำมาใช้ประกอบการศึกษาจัดทำข้อมูลฐาน (Baseline data) และการประเมิน (Tracking) การลดก๊าซเรือนกระจกจากมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของยานพาหนะ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ สนข. กำหนดต่อไป

เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุมโคลีเซียม (Coliseum) โรงแรมแบงค็อก มิดทาวน์ กรุงเทพมหานคร

ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วย ดร.นุวงศ์ ชลคุป ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยพลังงานคาร์บอน ได้รับเชิญเป็นวิทยากร โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านนโยบายพลังงาน จัดโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ระหว่างวันที่ 4 – 18 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุมโคลีเซียม (Coliseum) โรงแรมแบงค็อก มิดทาวน์ กรุงเทพ

ภายในงาน ดร.สุมิตรา บรรยายในหัวข้อเรื่อง เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงและนโยบายไฮโดรเจนของไทย และ ดร.นุวงศ์ บรรยายในหัวข้อเรื่อง นโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน และแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นอกจากนี้ เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนการพัฒนาการผลิตและการใช้ไฮโดรเจนในภาคพลังงาน ค.ศ. 2024 - 2050 ดร. สุมิตราฯ ได้มีโอกาสเข้าร่วมให้ความเห็นและข้อเสนอแนะผ่านการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายไฮโดรเจนของประเทศไทย ครั้งที่ 2/2567 วันที่ 18 กันยายน 2567

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านนโยบายพลังงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ พัฒนาศักยภาพ ทักษะทางการคิด และยกระดับความรู้ของเจ้าหน้าที่ สนพ. และกระทรวงพลังงาน ให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศและสถานการณ์โลก ในด้านนโยบาย แผน และมาตรการทางด้านพลังงาน เช่น แผนพลังงานชาติ นโยบายไฟฟ้า นโยบายปิโตรเลียม นโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน และแนวทางการขับเคลื่อน รวมทั้งองค์ความรู้นวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงจากบริบทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล รวมทั้งสร้างพลังเครือข่าย บูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในกระทรวงพลังงานให้บรรลุเป้าหมายต่อไป

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 ณ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) อาคารจัตุรัสจามจุรี กรุงเทพฯ

ดร. วิศาล ลีลาวิวัฒน์ ผู้แทนจากศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) เข้าร่วมการประชุมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เนื่องในโอกาส APEC Research Center for Advanced Biohydrogen Technology (APEC-ACABT) หารือร่วมกับ APEC Center for Technology Foresight (APEC-CTF)

ในการประชุมครั้งนี้ ดร.วิศาล ได้หารือกับ Prof. Dr. Shu-Yii WU ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ APEC-ACABT และทีมงาน เกี่ยวกับแผนการจัดตั้ง ACABT Bangkok Chapter ในประเทศไทย โดย ENTEC ได้นำเสนอศักยภาพของพลังงานชีวภาพในประเทศไทย รวมถึงโครงการผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย Green Synergy Solution (GSS) ของ APEC-ACABT และยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) ของประเทศไทย

การประชุมครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีพลังงานชีวภาพระหว่างประเทศไทยและ APEC โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนสีเขียว

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 ดร.วิศาล ลีลาวิวัฒน์ นักวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) ได้รับเชิญให้ร่วมงานและกล่าวคำปราศรัยในการประชุม “MSMEs – a key player in advancement of Green Hydrogen” ที่จัดโดย PHD Chamber of Commerce and Industry ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย การประชุมนี้มุ่งเน้นถึงบทบาทสำคัญของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) ในการพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนสีเขียว

ในการบรรยาย ดร.วิศาลได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ด้านไฮโดรเจนของประเทศไทย โดยเน้นทีโครงการการผลิตไฮโดรเจนชีวภาพของ ENTEC และการพัฒนามาตรฐานไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำ ดร.วิศาลได้ย้ำถึงความสำคัญของโครงการเหล่านี้ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์โลกในการมุ่งสู่การจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน

การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญสำหรับ ENTEC ในการมีส่วนร่วมกับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) ของอินเดีย เพื่อสร้างโอกาสในการร่วมมือกันในอนาคต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการนำเทคโนโลยีไฮโดรเจนมาใช้ในประเทศไทย การพบปะครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นอันดีที่จะใช้ประโยชน์จากความสามารถของ MSMEs ในการผลักดันไฮโดรเจนสีเขียว ส่งเสริมนวัตกรรมและความยั่งยืนภายในอุตสาหกรรมไฮโดรเจนต่อไป

วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุม M120 อาคารศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย

ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วย ดร.ลิลี่ เอื้อวิไลจิตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ให้การต้อนรับนายทะซึโยริ ทาเคโมโตะ รองประธานกรรมการด้านกิจการระหว่างประเทศ สมาคมผู้ผลิตเครื่องมือวิเคราะห์แห่งญี่ปุ่น หรือ JAIMA และคณะผู้แทนจาก JAIMA ในโอกาสนี้ ดร.สุมิตราได้นำเสนอภาพรวมและข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยของ ENTEC ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีในการได้พบปะหารือแนวทางในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในอนาคต จากนั้นคณะจาก JAIMA ได้เข้าเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวิจัยต่าง ๆ ของ ENTEC ประกอบด้วย

1. ห้องปฏิบัติการทีมวิจัยพลังงานทดแทนและประสิทธิภาพพลังงาน (RENT) ซึ่งมีคุณกนกวรรณ ใหม่แก้ว และนาย Pham Dinh Thao ผู้ช่วยปฏิบัติงานวิจัย ต้อนรับและบรรยายเกี่ยวกับงานวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจน
2. ห้องปฏิบัติการทีมวิจัยเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน (ESTT) โดย ดร.มานพ มาสมทบ นักวิจัย ให้การต้อนรับและนำเสนองานวิจัยด้านการออกแบบและพัฒนาแพ็กแบตเตอรี่ พร้อมทั้งนำชมห้องปฏิบัติการทดสอบจักรยานยนต์ไฟฟ้า
3.  ห้องปฏิบัติการทีมวิจัยเทคโนโลยีเชื้อเพลิงสะอาดและเคมีขั้นสูง (CFCT) มี ดร.วิทูรัช กู๊ดวินนำชมงานวิจัยด้านโอเลโอเคมีคอลและเครื่องมือวิเคราะห์ทดสอบเชื้อเพลิงชีวภาพ

เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุม Auditorium ชั้น 6 อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ^{ณ ห้องประชุมชั้น 10, อาคาร Techosen, กระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (MISTI) กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา} floor, Wattanawipas Building, Metropolitan Electricity Authority Headquarters, Bangkok

ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) โดย ดร.ธัญญา แพรวพิพัฒน์ และ ดร.จิราวรรณ มงคลธนทรรศ นักวิจัยทีมวิจัยเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน ร่วมสัมมนาเชิงวิชาการ “ระบบกักเก็บพลังงานในระบบไฟฟ้า: แนวโน้มเทคโนโลยี โอกาส และการใช้ประโยชน์ (Energy Storage in Power System: Technology Trend, Opportunities and Applications) จัดขึ้นโดยสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) หรือ IEEE Power & Energy Society (Thailand) ร่วมกับสมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA)

ในงานสัมมนาเชิงวิชาการนี้ ดร.ธัญญา นักวิจัย ENTEC ได้บรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมงานสัมมนาในหัวข้อ “ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน” ในลำดับถัดมา ดร.จิราวรรณ บรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมประโยชน์ การใช้งาน สถานการณ์ การใช้งานปัจจุบันของระบบกักเก็บพลังงานในระบบไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ” และได้ร่วมเสวนาเรื่อง “ตัวอย่าง กลไกสำคัญ ปัญหาและอุปสรรค โอกาสและการใช้ประโยชน์จากระบบกักเก็บพลังงานในระบบไฟฟ้า” ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ จากมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนชั้นนำ

ในปัจจุบัน การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่สนับสนุนและส่งเสริมการผลิตพลังงานหมุนเวียนในหลายรูปแบบ คาดว่าในอนาคต พลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล น้ำ และไฮโดรเจน จะมีส่วนในการผลิตไฟฟ้ามากกว่า 50% ของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด โดยมีปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนที่สำคัญ คือ ความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่มีเป้าหมายสำคัญตามมติการประชุม COP 28 คือ ประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) เพื่อให้การใช้พลังงานหมุนเวียนมีประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นต้องมีระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) ที่หลากหลาย ช่วยลดความผันผวนและความไม่แน่นอนของพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ ความเสถียร และความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าทั้งระบบจึงนับเป็นประเด็นสำคัญ

เมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ โรงแรม อวานี รัชดา กรุงเทพมหานคร

ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำโดย ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล ผู้อำนวยการกลุ่มนวัตกรรมพลังงาน (EIRG) พร้อมด้วย ดร.ณัฐนัย คุณานุสนธิ์ นักวิจัย เข้าร่วมงานสัมมนานำเสนอผลการศึกษาโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมจัดการซากยานยนต์และแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันยานยนต์ (สยย.)

ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สวทช. จัดประชุมอบรม ภายใต้ หลักสูตร “Capability Building for Energy Transition” ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) สู่การเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างขีดความสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในอนาคตของประเทศไทย สอดรับนโยบายประเทศเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ของประเทศไทยใน ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2065

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุม M119 อาคารศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย

ดร.ลิลี่ เอื้อวิไลจิตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สวทช. พร้อมด้วย ดร.ชัยยุทธ แซ่กัง นักวิจัยจากทีมวิจัยเทคโนโลยีเชื้อเพลิงสะอาดและเคมีขั้นสูง ENTEC และทีมนักวิจัย BIOTEC ให้การต้อนรับคณะนักวิจัยจากบริษัท Mitsui Chemicals Crop & Life Solutions, Inc. (MCCLS) และ ICBiotech มหาวิทยาลัยโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือความร่วมมือวิจัยและเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการ

ในโอกาสนี้ ดร.ลิลี่ ได้กล่าวต้อนรับพร้อมแนะนำ ENTEC และ สวทช. จากนั้น ดร.โนริคาซึ ฮิกาชิมูระ นักวิจัยอาวุโสจาก MCCLS นำเสนอภาพรวมของบริษัทและหัวข้อวิจัยที่สนใจ ลำดับต่อมา ดร.ชาญวิทย์ หัวหน้าทีมวิจัยความหลากหลายและการใช้ประโยชน์จุลินทรีย์ นำเสนองานวิจัยด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ดร.อลงกรณ์ หัวหน้าทีมวิจัยเทคโนโลยีการควบคุมทางชีวภาพ นำเสนองานวิจัยด้านการพัฒนาชีวภัณฑ์สำหรับใช้งานกำจัดศัตรูพืช และ ดร.ชัยยุทธ นำเสนองานวิจัยด้านการพัฒนาสารลดแรงตึงผิวชีวภาพ หรือ Bio-surfactant จากน้ำมันปาล์มสำหรับใช้งานกำจัดศัตรูพืช

คณะนักวิจัยจาก MCCLS แสดงความสนใจในงานวิจัยของ ENTEC และ BIOTEC พร้อมสอบถามข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จากนั้นได้เยี่ยมชมศูนย์ชีววัสดุประเทศไทยและห้องปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีการควบคุมทางชีวภาพ ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีในการได้พบปะหารือแนวทางในการดำเนินงานร่วมกันและสร้างเครือข่ายความร่วมมือในอนาคต

เมื่อวันที่ 21-23 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ แชงกรีลา ราซา เซนโตซ่า ประเทศสิงคโปร์

ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำโดย ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล ผู้อำนวยการกลุ่มนวัตกรรมพลังงาน (EIRG) ENTEC และนายกสมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) พร้อมด้วย ดร.ณัฐนัย คุณานุสนธิ์ นักวิจัย เข้าร่วมงานและรับเชิญเป็นผู้ร่วมเสวนาในงานประชุม The 2nd ASEAN Battery & Electric Vehicle Technology Conference (ABTC) 2024^nd จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ แชงกรีลา ราซา เซนโตซ่า ประเทศสิงคโปร์

งานประชุม ASEAN Battery & Electric Vehicle Technology Conference (ABTC) ครั้งแรกจัดขึ้นที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย และเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งด้านแบตเตอรี่ของภูมิภาคอาเซียน โดยการประชุมในปี 2024 ครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งที่สอง เพื่อการพัฒนาต่อยอด โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น โดยส่งเสริมความร่วมมือข้ามพรมแดนและสนับสนุนแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน

ภายในงาน ดร.พิมพา ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ เรื่อง “Navigating ASEAN Government Policies: Current and Future Impact on the EV, ESS and Battery Sectores” ร่วมกับนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ ในงานเดียวกันนี้

ดร. ณัฐนัย ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “End of Life/Circularity: ASEAN and Global Trends in Battery End-of-Life Strategies” ซึ่ง ดร.พิมพา ได้ร่วมเป็นผู้ดำเนินการเสวนา แลกเปลี่ยนความรู้ และข้อคิดเห็นในการศึกษาวิจัยด้านการจัดการแบตเตอรี่อีกด้วย